แม้ว่าประกันสุขภาพทั่วไปจะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแต่
ประกัน มะเร็ง มักจะมอบความคุ้มครองทางการเงินในรูปแบบของ เงินก้อนซึ่งมีข้อดีที่แตกต่าง
ได้รับเงินก้อนทันทีที่ตรวจพบ:
ประกันมะเร็งส่วนใหญ่มักจ่ายเงินก้อนให้ทันทีเมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง
ทำให้ผู้เอาประกันมี เงินสดสำรอง
สำหรับใช้จ่ายในการวางแผนการรักษาได้อย่างอิสระ เช่น
การเลือกวิธีรักษาแบบใหม่ๆ ที่มีค่าใช้จ่ายสูง
ใช้ได้ตามต้องการ:
เงินก้อนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้แค่ค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น
แต่สามารถนำไปใช้เป็นค่าชดเชยรายได้ที่ขาดหายไป ค่าเดินทาง
หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้ป่วย
เบี้ยประกันคงที่และราคาเข้าถึงได้:
เบี้ยประกันมะเร็งมักไม่แพงเท่าประกันสุขภาพเหมาจ่าย
และบางแผนมีเบี้ยประกันที่คงที่เป็นระยะเวลาหนึ่ง
ทำให้วางแผนการเงินได้ง่าย
ความคุ้มครองหลักของ "ประกันมะเร็ง" ที่ต้องทำความเข้าใจการทำความเข้าใจขอบเขตความคุ้มครองจะช่วยให้คุณเลือกแผนที่ตรงกับความเสี่ยงและงบประมาณของคุณ
1. คุ้มครองมะเร็งทุกระยะนี่คือจุดเด่นที่สุดของประกันมะเร็ง:
มะเร็งระยะไม่ลุกลาม:
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ส่วนหนึ่ง (มักจะเป็น 10%-25% ของทุนประกัน)
เพื่อให้ผู้เอาประกันมีเงินไปทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่โรคจะลุกลาม
มะเร็งระยะลุกลาม: บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ส่วนที่เหลือทั้งหมด (หรือจ่ายเต็มจำนวน 100% หากไม่เคยเคลมระยะไม่ลุกลามมาก่อน)
ข้อแนะนำ:
ควรเลือกแผนที่ให้ความคุ้มครอง มะเร็งทุกชนิดและทุกระยะ
เพื่อให้ได้รับเงินก้อนตั้งแต่ระยะแรกๆ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาด
2. ระยะเวลารอคอยประกันมะเร็งทุกแผนจะมี ระยะเวลารอคอย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บริษัทยังไม่จ่ายผลประโยชน์ หากตรวจพบมะเร็งในช่วงนี้ โดยทั่วไปคือ:
ระยะรอคอยสำหรับการวินิจฉัยมะเร็ง: มักจะอยู่ที่ 90 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ
ข้อยกเว้น: โรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
3. มะเร็งผิวหนังมะเร็งผิวหนังบางชนิดที่ไม่ร้ายแรงอาจมีเงื่อนไขการคุ้มครองที่แตกต่างกัน:
โดยทั่วไปจะมีการจ่ายผลประโยชน์สำหรับมะเร็งผิวหนังในสัดส่วนที่น้อยกว่ามะเร็งชนิดอื่นๆ (เช่น 10% หรือ 20% ของทุนประกัน)
อย่างไรก็ตาม มะเร็งผิวหนังชนิดที่ร้ายแรงอย่าง Malignant Melanoma มักจะได้รับการคุ้มครองเทียบเท่ามะเร็งระยะลุกลามทั่วไป
เปรียบเทียบประกันสุขภาพ4. ผลประโยชน์เพิ่มเติมที่อาจมีให้นอกเหนือจากเงินก้อนแล้ว บางแผนประกันมะเร็งยังอาจมีผลประโยชน์เสริมอื่น ๆ เช่น:
ค่าชดเชยรายวัน: จ่ายเงินชดเชยรายวันเมื่อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคมะเร็ง
คุ้มครองค่าตรวจวินิจฉัยซ้ำ: เพื่อให้มั่นใจในการวินิจฉัยและแผนการรักษา