เมื่ออายุมากขึ้น บทบาททางการเงินก็เปลี่ยนไป จากการสร้างรายได้เป็นการรักษาความมั่งคั่งและส่งต่อทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ
ประกันสุขภาพผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป
จึงเป็นเครื่องมือที่ไม่เพียงแต่ให้ความคุ้มครองชีวิตเท่านั้น
แต่ยังมอบสิทธิประโยชน์ด้าน ภาษี และช่วยให้การ ส่งต่อมรดก
เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
1. สิทธิลดหย่อนภาษี: การวางแผนภาษีในวัยเกษียณแม้จะเกษียณแล้ว
ผู้สูงอายุหลายท่านก็ยังคงมีรายได้จากหลายช่องทาง เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล
หรือรายได้เสริม
การใช้ประกันผู้สูงอายุจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการภาษี:
ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท
เบี้ยประกันชีวิตของกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองตั้งแต่
10 ปีขึ้นไป สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุดถึง 100,000
บาท ต่อปี โดยเฉพาะแผนประกันผู้สูงอายุประเภทออมทรัพย์หรือตลอดชีพ
(ที่ออกแบบมาเฉพาะ) ก็เข้าเกณฑ์นี้
การลดหย่อนสำหรับ "ประกันสุขภาพบิดามารดา"
หากคุณในฐานะบุตรเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันสุขภาพให้กับบิดาหรือมารดา
ก็สามารถนำเบี้ยประกันนั้นไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด
สูงสุด 15,000 บาท ต่อปี (บิดามารดาต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
และคุณต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย)
ข้อดี:
การทำประกันชีวิตในวัยเกษียณสำหรับผู้ที่มีรายได้สูง/รายได้เสริม
ยังคงช่วยลดภาระภาษีได้เหมือนเดิม ทำให้มีเงินออมเหลือมากขึ้น
2. ส่งต่อมรดก: เร็ว ชัดเจน และไม่เสียเวลาปัญหาที่พบบ่อยในการส่งต่อทรัพย์สิน
คือความยุ่งยากในการแบ่งมรดกตามพินัยกรรม
หรือต้องรอการพิสูจน์สิทธิ์ที่ยาวนานในศาล เงินสินไหมทดแทนจากประกันชีวิต
แก้ปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์:
รวดเร็ว ไม่ต้องผ่านศาล
เงินสินไหมมรณกรรมที่จ่ายให้ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์
ไม่ใช่ทรัพย์สินในกองมรดก ดังนั้นจึงไม่ต้องรอการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
ไม่ต้องผ่านกระบวนการทางศาล
บริษัทประกันจะจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์โดยตรงอย่างรวดเร็ว
(ทันทีที่เอกสารครบถ้วน)
ทำให้ลูกหลานมีเงินใช้จ่ายที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็ว
ชัดเจน ไม่ต้องพิพาท
การระบุ
"ผู้รับประโยชน์"
ในกรมธรรม์เป็นการกำหนดเจตนาที่ชัดเจนที่สุดในการส่งต่อทรัพย์สิน
ผู้เอาประกันสามารถกำหนดสัดส่วนการรับเงินให้แก่บุตรหลานแต่ละคนได้อย่างชัดเจน
โดยไม่มีข้อโต้แย้งทางกฎหมาย
ทำให้มั่นใจได้ว่าทรัพย์สินจะตกถึงมือคนที่คุณรักตามเจตนา
ได้เงินก้อนที่ "ปลอดภาษีมรดก"
แม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายภาษีมรดก
แต่เงินที่จ่ายเป็นสินไหมทดแทนจากประกันชีวิตให้กับผู้รับประโยชน์
(ตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด) จะ ได้รับการยกเว้นภาษีมรดก
ทำให้เงินก้อนมรดกที่สร้างไว้ส่งต่อไปถึงทายาทได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
เลือกแผนประกันผู้สูงอายุอย่างไร ให้ได้ประโยชน์สูงสุดถ้าเน้นลดหย่อนภาษีสูง:
เลือกแผนประกันที่มีความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
และจ่ายเบี้ยประกันในจำนวนที่ใกล้เคียงกับวงเงินลดหย่อนภาษีที่ต้องการ
(เช่น 80,000 - 100,000 บาทต่อปี)
ถ้าเน้นสร้างมรดกและง่าย:
เลือกแผนประกันชีวิตตลอดชีพสำหรับผู้สูงอายุ (ที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ)
ซึ่งมีทุนประกันสูง และระบุผู้รับประโยชน์ให้ชัดเจน
ถ้าเน้นครบเครื่อง: เลือกแผนที่รวมความคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และสิทธิลดหย่อนภาษีเข้าด้วยกัน เพื่อความอุ่นใจและประสิทธิภาพสูงสุด
การทำประกันผู้สูงอายุจึงไม่ใช่แค่การป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพเท่านั้น
แต่เป็นการวางแผนทางการเงินที่ครบวงจร
เพื่อการส่งต่อความมั่งคั่งอย่างราบรื่นที่สุด