ในโลกของการเงินที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
การทำประกันชีวิตถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยง
แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่า อะไรคือหลักประกันที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า
กรมธรรม์ที่คุณถืออยู่จะยังคงมีผลบังคับใช้
แม้ในสถานการณ์ที่บริษัทประกันอาจประสบปัญหา คำตอบคือ
กองทุนประกันชีวิต
ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่สร้างความมั่นคงให้กับระบบประกันภัยโดยรวม หน้าที่
และประโยชน์ของกองทุนฯ รวมถึงโอกาสในการวางแผนการเงินอย่างมั่นคง
และประหยัดภาษีสูงสุดที่จะได้รับ
ทำความเข้าใจ กองทุนประกันชีวิต
กลไกสำคัญที่คุ้มครองผู้เอาประกันภัยในกรณีที่บริษัทประกันชีวิตถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ศึกษา บทบาทหน้าที่ของกองทุนประกันชีวิต อย่างละเอียด
พร้อมเผยสิทธิประโยชน์ด้าน ลดหย่อนภาษี
จากการทำประกันชีวิตที่คุณไม่ควรพลาด
เพื่อวางแผนการเงินอย่างมั่นคงและประหยัดภาษีสูงสุด
กองทุนประกันชีวิต มักมีวัตถุประสงค์หลักคือ1. ต้องการความมั่นใจ ต้องการทราบว่าเงินที่จ่ายเบี้ยประกันไปจะได้รับความคุ้มครองหรือไม่ หากบริษัทประกันล้ม (โดยเฉพาะกลุ่มที่กำลังตัดสินใจทำประกัน)
2. ต้องการทราบขอบเขตความคุ้มครอง กองทุนฯ มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง คุ้มครองเท่าไร และคุ้มครองเมื่อใด
3. ต้องการสิทธิประโยชน์ สนใจในเรื่องการ ลดหย่อนภาษี ที่มาพร้อมกับการทำประกันชีวิต
กองทุนประกันชีวิตถูกจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต
โดยมีสถานะเป็นนิติบุคคล
มีหน้าที่หลักในการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับผู้เอาประกันภัยและระบบประกันชีวิตโดยรวม
สิ่งที่ควรรู้:
กองทุนประกันชีวิต
ไม่ได้คุ้มครองการไม่ได้รับเงินจากการถูกปฏิเสธจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามปกติ
แต่คุ้มครองในกรณีที่บริษัทประกันภัย ถูกเพิกถอนใบอนุญาต เท่านั้น
วงเงินคุ้มครองและหลักประกันความมั่นคงแม้ว่ากองทุนประกันชีวิตจะเข้ามารับผิดชอบแทนบริษัทที่ล้ม แต่ก็มี วงเงินจำกัด เพื่อรักษาเสถียรภาพของกองทุนฯ:
• วงเงินคุ้มครองปัจจุบัน
ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนฯ สูงสุด ไม่เกิน 1
ล้านบาทต่อราย
สำหรับกรมธรรม์ที่ได้ทำไว้กับบริษัทประกันชีวิตที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
• ข้อยกเว้น
กรมธรรม์ประกันชีวิตประเภทที่ได้รับยกเว้น เช่น
ประกันกลุ่มที่ไม่ได้มีผลประโยชน์เป็นเงินตามจำนวนที่แน่นอน
กรมธรรม์ที่ทำนอกราชอาณาจักร หรือกรมธรรม์ที่ไม่มีการเอาประกันชีวิต
3. ประกันชีวิตกับการ ลดหย่อนภาษี: สิทธิประโยชน์ที่คุณได้รับการทำประกันชีวิตไม่ได้ให้แค่ความคุ้มครองเท่านั้น
แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนภาษี
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานจำนวนมากให้ความสนใจ
ประกันชีวิตทั่วไป สูงสุด 100,000 บาท ระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
ประกันสุขภาพ สูงสุด 25,000 บาท รวมกับประกันชีวิตทั่วไปไม่เกิน 100,000 บาท
เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ สูงสุด 200,000 บาท ไม่เกิน 15% ของเงินได้ แต่เมื่อรวมกับ RMF และ PVD แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
การใช้สิทธิประโยชน์
การทำประกันชีวิตเพื่อ ลดหย่อนภาษี
จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยกรมสรรพากร เช่น
ผู้เอาประกันและผู้จ่ายเบี้ยต้องเป็นคนเดียวกัน
และกรมธรรม์ต้องมีการทำประกันชีวิตจริง
ซื้อประกันออนไลน์